- พัฒนาได้เร็ว เพราะมีระบบที่จำเป็นติดตั้งมาให้แล้ว
- มีผู้ใช้งานจำนวนมาก จึงมี Plugin ให้ดาวน์โหลดใช้จำนวนมาก
- ระบบหลังบ้านดูแลง่าย ใช้งานง่าย
- มี Plugin ที่รองรับการทำ SEO
- WordPress แยกการดีไซต์หน้าเว็บออกจากระบบเนื้อหาเว็บไซต์ ในอนาคตหากต้องการแก้ไขดีไซต์จะไม่กระทบกับเนื้อหาเว็บไซต์

- WordPress เป็น Opensource จึงมีแฮกเว็บจำนวนมาก แต่สามารถป้องกันได้โดยการอัพเดตเวอร์ชั่น WordPress และลง Plugin ป้องกัน
- สำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการ Feature เฉพาะจำเป็นต้องซื้อ Plugin เพิ่มเติม
- หากลง Plugin จำนวนมากอาจทำเว็บไซต์ช้า แต่สามารถแก้ได้โดยการสร้าง Cache ให้เว็บโหลดเร็วขึ้น
- WordPress มีธีมฟรีแจกมากมายแต่ต้องใช้นักพฒนาเว็บไซต์ที่มีเข้ารู้ด้านการพัฒนาเว็บเพื่อปรับแต่งเว็บให้ตรงตามความต้องการ หลังจากนั้นผู้ใช้งานสามารถเพิ่มข้อมูลผ่านระบบหลังบ้านของ WordPress ได้ง่ายๆ

WordPress เป็น CMS ทำเว็บไซต์บทความที่มีประสิทธิภาพสูง และยังมี Plugin ด้านการทำเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพคือ Woocommerce ซึ่งสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี โดยสามารถตั้งค่าระบบการขนส่งสินค้าได้หลากหลาย ตั้งค่าชำระเงินทั้งแบบการโอนเงิน การชำระผ่านบัตรเครดิต การเก็บเงินปลายทาง มีระบบรายงานการสั่งซื้อ และหากต้องการ Feature ที่หลากหลายมากขึ้นเช่น ระบบ POS ยังสามารถซื้อ Plugin ติดตั้งเพิ่มได้

เมื่อพัฒนาเว็บไซต์ด้วย WordPress ผู้ดูแลเว็บไซต์ จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการแบ็คอัพข้อมูล การสแกนไวรัส การสแกนสแปม ซึ่งสามารถทำผ่าน Plugin ได้ง่ายๆ โดยนักพัฒนาเว็บไซต์จะเป็นผู้ตั้งค่าต่างๆให้ในขั้นตอนการพัฒนาเว็บไซต์

- ค่าใช้จ่ายของการพัฒนาเว็บไซต์จาก WordPress ที่นักพัฒนาคิดเป็นค่าเวลาในการทำเว็บ เช่นการสร้างหมวดหมู่ การสร้างเมนู การสร้างหน้าเว็บไซต์ต่างๆ การตั้งค่าด้านความปลอดภัย การตั้งค่า Onpage SEO
- ค่าธีม จริงที่มีธีมมากมายให้ดาวน์โหลดฟรีแต่หากต้องการเว็บไซต์ที่มีความสวยงาม รองรับการทำงานแบบ Resposive จำเป็นต้องซื้อธีม
- ค่า Plugin Feature บางอย่างสามารถหาดวน์โหลด Plugin ได้ฟรี แต่บางอย่างจำเป็นต้องซื้อ