“ผงหอมศรีจันทร์” ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลความสวยของหญิงไทยมากว่า 60ปี…
“ผงหอมศรีจันทร์” ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลความสวยของหญิงไทยมากว่า 60ปี ด้วยสูตรลับระดับตำนาน ที่สืบทอดจากการคิดค้นอย่างพิถีพิถัน ท่ามกลางกระแสนิยมความงามในแบรนด์ต่างประเทศ อะไรที่ทำให้แบรนด์ที่มีชื่อสุดเชยนี้อยู่รอดมาได้ ไม่ล้มหายตายจาก แถมปัจจุบันกลับมาผงาดในตลาดความงามอีกครั้ง
ตำนานผงหอมศรีจันทร์ ก่อตั้งมานานกว่า 60 ปี โดยคุณพงษ์ หาญอุตสาหะ ซึ่งสร้างตัวขึ้นจากร้านขายยาแถววังบูรพา เขาได้จดทะเบียนบริษัทสหโอสถขึ้นในปี พ.ศ.2491 เพื่อนำเข้าและจัดจำหน่ายสารเคมีซึ่งเป็นวัตถุดิบเกี่ยวกับยาและเครื่องสำอางเป็นหลัก ส่วนผงหอมศรีจันทร์เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพียงตัวเดียวที่คุณพงษ์ได้สูตรสมุนไพรคุณภาพดีมาจากนายแพทย์เหล็ง ศรีจันทร์ โดยเขาขอซื้อทั้งสูตรและกิจการมาจากหมอเหล็ง แล้วรวมชื่อเป็น “บริษัทศรีจันทร์สหโอสถ”
ในรุ่นที่สอง บรรดาลูกๆ ของผู้ก่อตั้งมีเพียงคุณมาตร หาญอุตสาหะ ที่มารับช่วงต่อ โดยยังคงทำงานร่วมกับพนักงานจากรุ่นดั้งเดิมทั้งหมด การบริหารกิจการของศรีจันทร์สหโอสถดำเนินไปในระบบเก่าแก่ ไม่พึ่งพาแม้แต่คอมพิวเตอร์ แต่ในยุคไอทีเช่นในปัจจุบัน บริษัทซึ่งเกือบไร้ทายาทผู้สานต่อในรุ่นที่สามก็จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
คุณรวิศ หาญอุตสาหะ นั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการ เป็นหัวหอกรุ่นที่สาม ในวัยสามสิบต้นๆ ได้นำเอาความรู้ด้านวิศวกรรม การเงิน และการตลาดเชิงรุก เข้ามาต่อลมหายใจสินค้าวัยเดอะให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
“มาถึง ณ จุดหนึ่งที่กิจการติดขัดถึงขั้นต้องเลิกกิจการ กิจการเราอยู่มา 67 ปี คุณปู่เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจนี้ เป็นอาชีพที่ส่งเรียนจนจบและมีงานทำ จึงไม่อยากจะให้ธุรกิจล้มลง ผมจึงเข้ามาสานต่อ ในช่วงแรกที่เข้ามา เรียกได้ว่าล้าหลังมาก บริษัทไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้สักตัว ผมจึงเริ่มจัดการวางระบบใหม่ทั้งหมดโดยนำความรู้ทางด้านวิศวกรรมเข้ามาช่วยเรื่องการผลิต อีกปัญหาที่เจอคือเรื่องบุคลากร บางคนอยู่กับเรามา 50 ปี เปิดรับสิ่งใหม่ได้ยาก ต้องลงมือปฏิบัติให้ดู จนสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดคนรุ่นเก่าให้ยอมรับได้ในระดับหนึ่ง”
โลกใบใหม่แข่งขันกันที่ความเร็วและการนำเสนอของจริงสู่ตลาด และการที่ผู้ประกอบการจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้ก็ต้องการอาศัยวิสัยทัศน์การลงทุนในประเด็นใหม่ๆ นั่นก็คือเรื่องของการวิจัยพัฒนาและดีไซน์ ผงหอมศรีจันทร์ ยังติดอยู่ในภาพลักษณ์สินค้าเก่าที่ดูโบราณ คุณรวิศ จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดูมีความทันสมัยขึ้นโดยร่วมกับศูนย์นาโนเทคของ สวทช.ในด้านการวิจัยผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทำให้ผงหอมศรีจันทร์มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น ครีม เมคอัพเบส เป็นต้น จากเดิมที่มีผงหอมละลายน้ำเพียงอย่างเดียว
นอกจากนั้นในส่วนของหน้าตาบรรจุภัณฑ์ คุณรวิศ ยอมทุ่มงบทำงานกับดีไซเนอร์มืออาชีพ “คุณเคยเห็นแพ็คเกจจิ้งที่มันไม่ถึงมั้ย เกือบสวย แต่ไม่ถึงนั่นแหละคือผลงานของคนที่ประหยัดในเรื่องแพ็คเกจจิ้ง” คุณรวิศ กล่าวย้ำว่าเรื่องดีไซน์เขาจะไม่ขี้เหนียวเด็ดขาด เพราะมันต้องอยู่กับสินค้าของเขาไปอีกนาน
การขยายช่องทางการสินค้า เป็นอีกกลยุทธ์ที่ผู้บริหารหนุ่มปรับให้เข้ายุคเข้าสมัย จากเดิมผงหอมศรีจันทร์มีจำหน่ายเฉพาะภาคใต้ ก็ขยายตลาดให้กว้างขึ้นโดยคิดฝากความหวังในการขายไว้กับร้านเซเว่นอีเลฟเวน แต่เกิดปัญหาว่าสินค้าไม่เป็นที่รู้จัก ร้านจึงยังไม่ตัดสินใจรับ
“ผมตัดสินใจเสนอเงื่อนไขกับทางเซเว่นฯ ว่าจะยอมจ่ายเงินแรกเข้าทั้งหมดและภายใน 2 อาทิตย์ถ้าสินค้าขายไม่ได้ตามข้อกำหนด ผมจะไม่ขายต่อ ผลปรากฏว่าสินค้าสามารถขายได้เป็นที่น่าพอใจ จากนั้นมา 2 ปีแล้วที่เราสามารถขายผงหอมศรีจันทร์ในร้านเซเว่นฯ โดยที่ไม่ถูกถอดสินค้าออกเหมือนสินค้าอื่นๆ”
ในปีแรกที่คุณรวิศเข้ามาบริหารงาน สร้างยอดขายให้บริษัท 30 ล้านบาท และตัวเลขเติบโตขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าในปีนี้จะปิดยอดขายได้ถึง 250 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีข้างหน้าหรือเมื่อมีการเปิดเสรีทางการค้าอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ต้องสร้างรายได้ถึง 500 ล้านบาทต่อปี
อีกหนึ่งสิ่งที่กำลังจะพัฒนาหรือเรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คือ จะมีการรีแบรนด์ จากผงหอมศรีจันทร์ เหลือเพียงคำว่า ศรีจันทร์ เพราะผลิตภัณฑ์ปัจจุบันไม่ได้มีแค่แป้งอย่างเดียวจะมีรูปแบบอื่นๆ ออกมาอีกมากมาย
“ตัวผมเองมีอยู่เพียงแค่ 3 หลักการคิด เวลาจะทำอะไรดีๆ ก็เหมือนกับการกระโดดข้ามสะพาน 1.ร่างกายเราต้องพร้อม เปรียบเสมือนทรัพยากรขององค์กร ไม่ว่าจะเป็น เงิน หรือ คน 2.เทคนิคต้องพร้อม เปรียบเสมือนองค์ความรู้ที่จะต้องสะสมและขยันหา
ทุกวัน 3.ใจต้องพร้อม คือ หัวใจจะต้องแกร่ง มีวินัย ผมเองฝึกง่ายๆ คือเมื่อนาฬิกาปลุกในตอนเช้าเราต้องลุกทันที ซึ่งสิ่งนี้ต้องฝึกตลอด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องตัดสินใจในความเสี่ยงก็จะสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น” คุณรวิศ ได้ฝากหลักคิดในการทำธุรกิจไว้